Lesson 74 แนวทางการบันทึกภาษีและการจัดการ Tax Point ในกรณีสัญญาซื้อขายและสัญญาจ้าง รวมถึงกรณีงานติดตั้งและบริการที่เกี่ยวข้อง

บทนำ

การทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการขายสินค้าและการให้บริการติดตั้งในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าพร้อมบริการติดตั้ง หรือการขายสินค้าพร้อมการตั้งค่าเบื้องต้น โดยไม่มีการคิดมูลค่าแยก ต่างก็มีผลต่อการบันทึกบัญชีและการคำนวณภาษี ดังนั้น การเข้าใจแนวทางการบันทึกภาษีและการกำหนด Tax Point จะช่วยให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดทางบัญชีและภาษีได้อย่างถูกต้อง

บทความนี้จะสรุปแนวทางการบันทึกภาษีและการจัดการ Tax Point สำหรับกรณีสัญญาซื้อขาย, สัญญาจ้าง และกรณีที่มีการรวมบริการติดตั้งหรือการตั้งค่าเบื้องต้น พร้อมตัวอย่างที่เข้าใจง่าย เพื่อให้อธิบายแนวทางการบันทึก Tax Point สำหรับสัญญาประเภทต่าง ๆ พร้อมบทบาทหน้าที่ของฝ่ายคลังสินค้า ฝ่ายบัญชี และฝ่ายจัดส่ง (วิศวกรโครงการ) ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการ

สัญญาซื้อขายและสัญญาจ้าง: ความแตกต่าง

สัญญาซื้อขาย คือสัญญาที่เน้นการส่งมอบสินค้าเป็นหลัก มูลค่าของสัญญาจะครอบคลุมเฉพาะตัวสินค้าที่ขาย การเกิด Tax Point จะเกิดขึ้นเมื่อมีการส่งมอบสินค้าและออกใบกำกับภาษี

สัญญาจ้าง คือสัญญาที่เน้นการให้บริการเป็นหลัก ซึ่งอาจครอบคลุมทั้งการติดตั้ง การบำรุงรักษา หรือการทำงานที่ต้องใช้แรงงาน โดยมูลค่าของสัญญาจะรวมถึงค่าแรงงานและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการ การเกิด Tax Point จะเกิดขึ้นตามขั้นตอนการดำเนินงาน หรือเมื่อมีการส่งมอบงานตามสัญญา เช่น การออกใบแจ้งหนี้และใบกำกับภาษีหลังเสร็จสิ้นบริการ

ตัวอย่าง:

  • สัญญาซื้อขาย: การขายเครื่อง UPS ให้กับลูกค้า โดยไม่รวมถึงบริการติดตั้ง
  • สัญญาจ้าง: การติดตั้งระบบ CCTV ให้ลูกค้า โดยไม่ได้ขายตัวอุปกรณ์

กรณีที่มีการขายสินค้าพร้อมงานติดตั้ง

หากเป็น สัญญาซื้อขายสินค้าแต่รวมงานติดตั้ง (มีการระบุมูลค่างานติดตั้งในสัญญา) Tax Point จะต้องแยกออกเป็นสองส่วน คือส่วนของการขายสินค้าและส่วนของงานติดตั้ง

  1. Tax Point สำหรับสินค้าขาย: เกิดขึ้นเมื่อมีการส่งมอบสินค้าและออกใบกำกับภาษี
  2. Tax Point สำหรับงานติดตั้ง: เกิดขึ้นเมื่อมีการส่งมอบงานติดตั้งตามสัญญาและออกใบกำกับภาษีแยกต่างหาก

ตัวอย่าง: การขายระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) พร้อมบริการติดตั้ง โดยระบุชัดเจนว่ามีค่าใช้จ่ายสำหรับการติดตั้ง

กรณีงานขายสินค้าพร้อมงานติดตั้งแต่ไม่มีมูลค่าติดตั้งแยกต่างหาก

กรณีที่ งานขายสินค้ารวมถึงการติดตั้งหรือการตั้งค่าเบื้องต้น แต่ไม่มีการคิดมูลค่าแยกสำหรับการติดตั้ง จะถือเป็นงานขายสินค้าโดยไม่ต้องแยก Tax Point สำหรับบริการติดตั้ง การติดตั้งเป็นบริการเสริมที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ตัวอย่าง: การขายระบบกล้องวงจรปิด (CCTV) พร้อมบริการติดตั้งพื้นฐานเช่น การตั้งค่ามุมกล้องและการเชื่อมต่อเครือข่าย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายติดตั้งเพิ่มเติม

กรณีสัญญาซื้อขายสินค้าที่แถมงานติดตั้งฟรี

ในกรณีที่เป็น สัญญาซื้อขายสินค้าแต่มีบริการติดตั้งฟรี (ไม่มีการระบุมูลค่าบริการติดตั้งในสัญญา) จะบันทึกการขายทั้งหมดรวมเป็นงานขายสินค้าโดยไม่แยก Tax Point สำหรับบริการติดตั้ง

ตัวอย่าง: การขายเครื่องปรับอากาศให้ลูกค้าและให้บริการติดตั้งฟรีเพื่อความสะดวกของลูกค้า โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

บทบาทและหน้าที่ของฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

  1. ฝ่ายคลังสินค้า:
    • หน้าที่: จัดเตรียมสินค้า ตรวจสอบความสมบูรณ์และความพร้อมของสินค้า พร้อมจัดส่งให้ลูกค้า และทำบันทึกการเคลื่อนย้ายสินค้าในระบบ
    • รายละเอียด: เมื่อสินค้าพร้อมจัดส่ง ฝ่ายคลังสินค้าจะดำเนินการตรวจสอบสภาพสินค้าให้ตรงกับคำสั่งซื้อ จากนั้นดำเนินการแพ็คสินค้าเพื่อเตรียมส่งต่อให้กับฝ่ายจัดส่งหรือวิศวกรโครงการ รวมถึงการเก็บเอกสารและข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนย้ายสินค้าเพื่อเป็นหลักฐานในระบบ
  2. ฝ่ายบัญชี:
    • หน้าที่: ออกใบแจ้งหนี้และใบกำกับภาษีตามเงื่อนไขในสัญญา ตรวจสอบการรับชำระเงินและบันทึกบัญชี
    • รายละเอียด: ฝ่ายบัญชีจะออกเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบกำกับภาษีและใบแจ้งหนี้ โดยพิจารณาจากขั้นตอนการดำเนินการส่งมอบสินค้าและงานติดตั้ง จากนั้นทำการบันทึกบัญชีและเก็บเอกสารทางบัญชีเพื่อใช้ในการยื่นภาษีในภายหลัง
  3. ฝ่ายจัดส่ง (วิศวกรโครงการ):
    • หน้าที่: ทำการจัดส่งสินค้าและติดตั้งให้ลูกค้า โดยตรวจสอบให้แน่ใจว่าสินค้าพร้อมใช้งานและการติดตั้งเสร็จสมบูรณ์ตามมาตรฐาน
    • รายละเอียด: ฝ่ายจัดส่งหรือวิศวกรโครงการมีหน้าที่ในการนำสินค้าไปยังสถานที่ของลูกค้า พร้อมดำเนินการติดตั้งหรือตั้งค่าให้สามารถใช้งานได้ตามที่ระบุในสัญญา เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นจะต้องทำบันทึกการส่งมอบงานและการติดตั้งในระบบ

สรุป

การจัดการ Tax Point ในกรณีสัญญาซื้อขายและสัญญาจ้าง รวมถึงกรณีงานติดตั้ง มีแนวทางการดำเนินการดังนี้:

  1. สัญญาซื้อขาย: Tax Point จะเกิดเมื่อส่งมอบสินค้า
  2. สัญญาจ้าง: Tax Point จะเกิดตามการส่งมอบงานบริการ
  3. งานขายพร้อมติดตั้ง (มีมูลค่าติดตั้งแยกต่างหาก): ต้องแยก Tax Point ของสินค้าและการติดตั้ง
  4. งานขายพร้อมการตั้งค่าเบื้องต้น (ไม่มีมูลค่าติดตั้ง): นับเป็นการขายทั้งหมดไม่แยก Tax Point
  5. งานขายพร้อมติดตั้งฟรี: นับรวมเป็นงานขายไม่ต้องแยก Tax Point สำหรับการติดตั้ง

การเข้าใจแนวทางการบันทึกภาษีและการจัดการ Tax Point จะช่วยให้การดำเนินการทางบัญชีมีความถูกต้อง ลดปัญหาทางกฎหมาย และทำให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

การติดตั้ง